วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2555

มองอาเซียนในมุมของปิ๋ว

 

          "อาเซียนในมุมที่คุณคุ้นเคย"


 
               เป็นที่รู้กันทั่วไปว่า"อาเซียน"นั้นเป็นองค์กรที่จัดจัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เริ่มแรกก็เพื่อสร้าง
สันติภาพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันนำมาซึ่งเสถียรภาพทางการเมือง และความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม และเมื่อการค้าระหว่างประเทศในโลกมีแนวโน้มกีดกันการค้ารุนแรงขึ้น ทำให้อาเซียนได้หันมามุ่งเน้นกระชับและขยายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าระหว่างกันมากขึ้น
        
         วัตถุประสงค์หลักของการจัดตั้งองค์กรอาเซียนก็เพื่อ ส่งเสริมความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ความก้าวหน้าทางสังคมและวัฒนธรร ส่งเสริมการมีเสถียรภาพ สันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม วิชาการ วิทยาศาสตร์ และด้านการบริหารส่งเสริมความร่วมมือซึ่งกันและกันในการฝึกอบรมและการวิจัย ส่งเสริมความร่วมมือในด้านเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมการค้า การคมนาคม การสื่อสาร และปรับปรุงมาตรฐานการดำรงชีวิต ส่งเสริมการมีหลักสูตรการศึกษาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งเสริมความร่วมมือกับองค์กรระดับภูมิภาคและองค์กรระหว่างประเทศ
 
                   จากผลจากการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 9 ณ เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ได้กำหนดให้จัดทำข้อตกลงยอมรับร่วมกัน (Mutual Recognition Arrangements : MRAs) ด้านคุณสมบัติในสาขาวิชาชีพหลัก เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายนักวิชาชีพ หรือแรงงานเชี่ยวชาญ หรือผู้มีความสามารถพิเศษของอาเซียนได้อย่างเสรี ซึ่งอาชีพที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ก็คือ วิศวกร พยาบาล สถาปนิก  การสำรวจ พนักงานบัญชี ทันตแพทย์ และแพทย์

        

           "อาเซียนในมุมของปิ๋ว "

 อารามพบท !!

               อาเซียน นั้นจริงอยู่มีความสำคัญมากต่อระบบเศรษฐกิจของไทย ต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศสมาชิก ส่งเสริมความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ความก้าวหน้าทางสังคมและวัฒนธรร ส่งเสริมการมีเสถียรภาพ สันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค ส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม วิชาการ วิทยาศาสตร์ และด้านการบริหารส่งเสริมความร่วมมือซึ่งกันและกันในการฝึกอบรมและการวิจัย ส่งเสริมความร่วมมือในด้านเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมการค้า การคมนาคม การสื่อสาร และปรับปรุงมาตรฐานการดำรงชีวิต ส่งเสริมการมีหลักสูตรการศึกษาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งเสริมความร่วมมือกับองค์กรระดับภูมิภาคและองค์กรระหว่างประเทศ

               จะเห็นว่าที่กล่าวมานั้นมีความสำคัญมากและมีประโยชน์มากต่อการขับเคลื่อนประเทศของไทย แต่ประเทศของเราพร้อมแค่ไหนที่จะมีชาวต่างชาติ ต่างวัฒนธรรม ต่างศาสนา ต่างภาษา ให้เข้ามาอยู่ในประเทศไทยของเรา เราเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศเพื่อนสมาชิกมากน้อยเพียงใด เราจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะไม่เกิดความขัดแย้งเกิดขึ้น ยิ่งมีการเข้าออกประเทศได้อย่างเสรี นั่นหมายถึงประชนในประเทศสมาชิกก็สามารถเข้ามาในประเทศไทยได้อย่างเสรี แล้วจะแน่ใจได้อย่างไรว่าคนจะมีแต่คนดีเดินทางเข้ามาในประเทศของเรา ประเทศมีมาตรการรองรับแค่ไหนกับสิ่งเหล่านี้ นั่นเป็นเรื่องที่น่าขบคิดอย่างยิ่ง
 
 

อาเซียนกับการศึกษาในระดับปริญญาโท

 

             ตัวฉันได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับอาเซียนมาตั้งแต่ฉันเรียนในระดับปริญญาตรีแต่ฉันก็ยังคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไกลตัว แต่มารู้จักมากขึ้นและคิดว่ามันใกล้ตัวฉันก็ตอนที่ศึกษาในระดับปริญญาโท เป็นจุดเริ่มให้ฉันเล็งเห็นความสำคัญของอาเซียน และก็เป็นจุดที่ทำให้ฉันตระหนักถึงข้อดีข้อเสียที่จะเกิดขึ้นกับการศึกษาของไทยมากขึ้น

            อาเซียนนั้นได้เข้ามาอิทธิพลต่อการเรียนในระดับปริญญาโทของฉันในแง่ของการเรียนการเพราะไม่ว่าฉันจะเรียนในรายวิชาใดอาเซียนก็ถูกกล่าวถึงในทุกวิชา และเมื่อพูดถึงเรื่องปริญญานิพนธ์  อาเซียนก้เข้ามามีบทบาทในปริญญานิพนธ์ด้วยจะเห็นได้จากที่มหาวิทยาลัยนั้นได้มีการจัดสัมนาซึ่งมีหัวข้อของการทำปริญญานิพนธ์ซึ่งมีการนำเอา อาเซียนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หรือการจัดสัมนาในรายวิชาสัมนานั้นหัวข้ออาเซียนก็ยังเป็นประเด็นที่ทุกคนให้ความสำคัญและหยิบยกมาเป็นหัวข้อที่ใช้ในการจัดสัมนาด้วย
 
         
 อาเซียนมีบทบาทอย่างยิ่งในการเรียนของฉัน  ในด้านของการใช้ชีวิตซึ่งต้องตระหนักถึงสิ่งที่จะตามมาหลังจากการเปิดประชาคมอาเซียน เกิดขึ้นทำให้เกิดการตื่นตัวมากขึ้น ตระหนัก และ หาแนวทางในการดำเนินชีวิต การเอาตัวรอดจากการดำรงชีวิตภายใต้กระแสทุนนิยมที่รุนแรงขึ้น การแข่งขันในตลาดแรงงานที่สูงขึ้น

           ในความคิดของฉันฉันคิดว่าอาเซียนนั้นมีความสำคัญและจำเป็นที่จะต้องรู้และเข้าใจ แต่มันก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กับอาเซียนซึ่งไม่ได้ถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นในการเรียนการสอน จริงอยู่อาเซียนทำให้ทุกหน่วยงานตื่นตัวที่จะเรียนรู้และปรับเปลี่ยนเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น จนบางครั้งก็หลงลืมประเด็นและสิ่งที่จำเป็นมากกว่าไป
 
 
 
ถึงแม้โลกจะเปลี่ยนแปลงไป จะมีอะไรเข้ามาให้เราต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลง
 
แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องทำต่อเนื่องและไม่เปลี่ยนแปลง คือการทำดี ไม่เบียดเบียนผู้อื่น
 
นอกจากตัวเราจะรู้สึกดีแล้วคนรอบข้างก็จะรู้สึกดีกับเราไปด้วย
 
และหากทุคนในสังคมทำดี ไม่เบียดเบือนผู้อื่น ทุกคนก็จะอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข
 
 
 
   หมายเหตุ :ถ้าข้อมูลของอาเซียนในบล็อกยังไม่จุใจ ท่านสามารถอ่านเพิ่มได้จากลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลย
  
 น่ะค่ะ. ^__^
                  
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

รู้จักแล้วจะรักหมดใจ

 


กำเนิดเกิดเป็น "ปิ๋ว"

      
        วันจันทร์ ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2532 เกือบบ่ายโมงเห็นจะได้ เด็กน้อยเพศหญิงผู้หนึ่งซึ่งภายหลังได้มีชื่อว่า จันทร์จีรา เทพดนตรี ชื่อเล่นว่าปิ๋วก็ได้ลืมตาขึ้นมาดูโลกเด็กน้อยคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนก็คือตัวฉันเอง ฉันเกิดมาพร้อมกับน้ำหนักสามกิโลกว่ารูปร่างจ้ำม้ำ มือเท้ากระชับ ผิวขาว แต่ขี้ร้อง งอแง และเลี้ยงยาก

      เกิดที่จังหวัดชุมพรและโตที่จังหวัดชุมพร พ่อและแม่ก็เป็นคนชุมพรโดยกำเนิด พ่อของฉันมีนามว่า บุญญา เทพดนตรี  แม่ของฉันนั้นก็มีนามว่า พลับพลึง เทพดนตรี ฉันเป็นลูกคนเดี่ยวจนกระทั่งฉันอายุได้ 2 ปี แม่ของฉันก็ได้ให้กำเนิดน้องสาวของฉันซึ่งภายหลังก็มีชื่อว่าชญาพร เทพดนตรี เมื่อฉันอายุได้ 3 ปี ฉันไปอยู่กับย่าและปู่ที่ตำบลบางลึก

 
จากอนุบาลจนถึงมัธยม
 








    เข้าเรียนในระดับชั้นอนุบาลจนถึงประถมศึกษาปีที่6ที่โรงเรียนวัดดอนเมืองซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่ใกล้บ้านของย่าและปู่ ฉันได้เรียนและทำกิจกรรมต่างๆมากมายได้รับรางวัลจากการทำกิจกรรมอย่างมากมาย และสิ่งที่ฉันภูมิใจมากที่สุดในการเรียนในโรงเรียนแห่งนี้คือการเรียนอย่างมีความสุข ครูทุกคนเป็นกันเองกับนักเรียน

      ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลายเรียนที่โรงเรียนสอาดเผดิมวิทยา จังหวัด
ชุมพร และได้ย้ายกลับมาอยู่กับพ่อและแม่ที ตำบลบ้านนา จังหวัดชุมพร ชีวิตในวัยนี้ก็เป็นช่วงชีวิตที่มีความสุขช่วงหนึ่งของชีวิตได้เรียนรู้และทำกิจกรรมมากมายในโรงเรียนแห่งนี้


ครั้งหนึ่งยังจำได้ " ในวันรักไทย"
 

กิจกรรมส่งท้ายก่อนจบ ม.6  กิจกรรมที่ไม่คิดว่าจะทำได้แต่ก็ได้ทำ
 
 

 
 สู่รั้ว"ศรีตรัง"มหาวิทยาลัยดังของแดนใต้

         ฉันเข้าไปอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ในคณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชาชีววิทยา ในปีพ.ศ.2551 ฉันได้เรียนรู้และได้รับประสบการณ์ที่ดีมากมายจากภาควิชาชีววิทยาในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ มีทั้งทุกข์ สุข เศร้า แต่มันก็ทำให้เราได้เรียนรู้อะไรๆมากขึ้น ทำให้เราเกิดการการเรียนรู้และเติบโตขึ้น
 
ฟิวส์ Bio ที่แสนสนุกและเหนื่อยไปพร้อมกัน ที่จังหวัดตรัง
 
รับน้องปีสองเข้าภาค และก็โดนพี่ปีสี่รับน้องด้วยเช่นกัน สนุกและเลอะมาก


รับน้องที่หาดมหาราช จังหวัดสงขลา สนุกสนาน และดำมากๆ

 
ชิวๆในห้องเรียน Plant taxonomy

 
ตื่นตั้งแต่ตี 5 ไปบุกตลาดตอนเช้าเพื่อหาข้อมูลทำรายงาน รายวิชา Econ inver ที่ตลาดเกาะหมี ที่หาดใหญ่
 
ไปออกฟิวส์แมลงที่โตนงาช้าง จังหวัดสงขลา เหนื่อยและสนุกไปพร้อมๆกัน

ไปค่ายอนุรักษ์ ที่ อำเภอท่าศาลา นครศรีธรรมราช ค่ายที่มากกว่าความสนุก ค่ายที่มีแต่รอยยิ้มและความสุข

 
ออกฟิวส์วิชา Herpetology  ที่ระนอง สนุกสนาสนาน พร้อมได้ประสบการณ์และความรู้



ผจญภัยยามราตรีไปกับเหล่าเพื่อนๆ ที่เรียนในรายวิชา Herpetology

 
งานเขาคอหงส์งานที่มีแต่ความรักความผูกพันธ์ ความสามัคคี และมากล้นไปด้วยความรู้


 
การเดินเขาที่แสนพิเศษ

 
เป็นตัวแทนเข้าประกวดการแต่งกายสุภาพของคณะวิทยาศ่าสตร์ "กิจกรรมอันทรงเกียติอย่างยิ่ง"
ไปร่วมแสดงความยินดีในงานรับปริญญาของพี่ฉลาก ก่อนจะถึงงานรับปริญญาของตัวเอง
งานบายเนี่ยปีสุดท้ายก่อนจะจบการศึกษา งานบายเนี่ยสุดอลังการ ที่ทุกคนก็ต่างจัดเต็ม

เพื่อนๆภาคชีววิทยา




Meeting สุดประทับกับเพื่อนๆ น้องๆภาควิชาชิววิทยาและน้องรหัสที่แสนน่ารัก
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2555 วันแห่งความภาคภูมิใจ และวันที่รอคอย ก็ได้มาถึง หลังจากที่รอคอยมานาน

น้องฉลากมาร่วมแสดงความยิน

น้องสาวที่แสนดี และน้องสาวที่น่ารักมา ร่วมแสดงความยินดี

 
ถ่ายภาพกับครอบครัว พ่อ แม่ และย่าบุคคลสำคัญผู้เป็นเบื้องหลังของความสำเร็จของการเรียนในครั้งนี้ ขอขอบพระคุณสำหรับโอกาสและกำลังใจดีๆที่ท่านทั้งสามมีให้ตลอดมา



 
สู่รั้ว " มศว."กับชีวิตเด็กปริญญาโท
          
            ในรั้วของมศว.หรือ ชื่อเต็มว่ามหาวิทยาลัศรีนครินทรวิโรฒประสานมิต ฉันเรียนอยู่ในคณะศึกษาศาสตร์ภาควิชาวิทยาการทางการศึกษาและการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ได้เจอเพื่อนใหม่ได้เรียนรู้และได้รับประสบการณ์ใหม่ๆมากมาย
         
          แม้ว่าการเรียนปริญญาโทจะทำให้ฉันมีความเครียด และจะต้องใช้ความอดทนอย่างมากแต่ฉันก็จะต้องสู้กและอดทนกับทุกปัญหาที่เกิดขึ้น และฉันก็หวังว่าจะจบเป็นมหาบัณฑิตที่ดีและมีคุณภาพ ถึงแม้ตอนนี้มันยังเป็นแค่ความฝัน แต่ก็หวังว่าสักวันฝันทีฉันรอคอยนั้นเป็นจริง


ไปแอ่วเชียงใหม่ กับค่ายอาสา
 
เฮฮาก่อนนอนบนที่พักสุดหรู (ค่ายอาสาที่จังหวัดเชียงใหม่)


 
เหล่าสาว วกจ ขึ้นดอยแม่วางมาช่วยเหลือน้องๆที่หมู่บ้าน มอวาคี นอกจากจะน่ารักและยังใจดีอีกด้วย อิอิ


เวลาจริงจังของเหล่าสาวๆ วจก.วิทยาศาสตร์
 
คลายเครียดด้วยการเที่ยวสวนจตุจักร


 

หลังจากเครียดจัดจากการสอบ บรรดสาว วกจ.วิทยาศาสตร์ ก็ไปคลายเครียดกันที่ ซูกิชิ กินกันจนลืมความเครียด